ระบบพื้นฐานจึงมักเริ่มที่อุปกรณ์ต้นเสียงหรือแหล่งต้นเสียง อีกนัยหนึ่งก็คือควรเลือกอุปกรณ์ประกอบ
ในระบบที่ไม่ควรแพงไปกว่าราคาของอุปกรณ์ต้นเสียง ถ้าต้นเสียงแย่อย่าหวังว่าจะเอาลำโพงคู่ละสี่ห้า
หมื่นมาแก้ปัญหา เพราะยิ่งแก้ยิ่งบานปลาย
เลือกซื้อได้ที่ไหน-อย่างไร?
• บทสรุปของทุกระบบเสียงรถยนต์มักมีปลายทางอยู่ที่การเลือกชุด
เลือกระบบ และแม้จะศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์มากเท่าไร
ก็ตาม แต่การเลือกระบบเสียงที่ตรงกับความต้องการกลับศึกษาได้ยาก
เย็น เพราะระดับของระบบเสียงรถยนต์สามารถเริ่มได้ตั้งแต่ 5,000
บาท ไปจนถึง 500,000 บาท ความแตกต่างที่หลากหลายนี่เองคือช่อง
ว่างที่ทำให้เกิดการฉกฉวยทางการค้า
หลายระบบถูกเสนอขายด้วยปริมาณของชุดอุปกรณ์ที่มากกว่า ในงบ
ประมาณของระบบที่เท่าๆ กันกับระบบที่มีจำนวนอุปกรณ์น้อยกว่า ซึ่งก็
สามารถจูงใจผู้ซื้อได้มาก ด้วยความคิดที่ว่าได้ของเยอะกว่าในราคาที่ถูก
กว่า โดยมิได้ฉุกคิดเลยว่าจะได้ระบบที่ประกอบด้วยอุปกรณ์ประสิทธิ
ภาพต่ำๆ และตามมาด้วยปัญหาให้แก้กันไม่ตกอีกมากมาย
ถ้าผู้ซื้อคำนึงถึงหลักเศรษฐศาสตร์กันเล็กน้อยก็จะข้ามขั้นตอน
ความโลภหรือความรู้สึกเป็นผู้ได้เปรียบนี้ไปได้ และมีโอกาสสัมผัสกับ
ระบบเสียงที่มีประสิทธิภาพคุ้มค่าคุ้มราคา และไม่มีปัญหามากวนใจใน
ภายหลัง
เพราะสินค้าทุกตัวที่จำหน่ายจะต้องมี ต้นทุน + ค่าใช้จ่ายทางการ
ตลาด + ค่าโสหุ้ยในการดำเนินกิจการ ถ้าสินค้าที่มีราคาถูกนั้นมาจาก
องค์ประกอบของ ตุ้นทุน + ค่าโสหุ้ยในการดำเนินกิจการ โดยไม่มีค่าใช้
จ่ายทางการตลาด (เช่นค่าขนส่ง โฆษณา ภาษี ฯลฯ) ก็ถือได้ว่าเป็นของ
ถูกที่เปี่ยมคุณค่า
แต่ถ้าหากสินค้าที่มีราคาถูกนั้นมาจากต้นทุนการผลิตต่ำๆ ละก็
ปัญหาความไม่คุ้มค่าเกิดขึ้นทันที เพราะค่าใช้จ่ายทางการตลาด+ค่า
โสหุ้ยในการดำเนินกิจการ จะมีอัตราที่แน่นอนสำหรับผลิตภัณฑ์ประเภท
นั้นๆ และเป็นที่มาของห่วยๆ ที่หลายท่านกำลังคิดเพียงว่ามันถูกกว่า
ถ้าจะยกตัวอย่างสินค้าราคาถูกให้เห็นชัดเจน ก็ยกตัวอย่างเช่น
ท่านสามารถซื้อนาฬิกายี่ห้อแพงๆ ได้ในราคาหน้าโรงงาน (ไม่มีภาษี
ไม่มีค่าขนส่ง ไม่มีค่าโฆษณา ฯลฯ) จึงจะถือว่าเป็นของถูกที่สมบูรณ์แบบ
สินค้าใหม่มีประกัน
• สินค้าใหม่หรือสินค้ามีประกัน ถือเป็นอุปกรณ์ระบบเสียงรถยนต์ที่
เลือกได้หลากหลาย และตรงกับความต้องการได้ง่าย และยังมีความทัน
สมัยทันยุค เช่นเล่น MP3 ได้, มีระบบครอสโอเวอร์ภายในตัวเพา-
เวอร์แอมป์
เลือกซื้อจากร้านติดตั้ง
• การเลือกซื้อสินค้าเครื่องเสียงรถยนต์จากร้านติดตั้งนั้น ผู้ซื้อควรทำ
การบ้านให้เรียบร้อยเสียก่อน ได้แก่การกำหนดเป้าหมายของระบบ งบ
ประมาณโดยคร่าวๆ และสมดุลของระบบกับงบประมาณ ดังตาราง
ประกอบ (เป็นตารางเกณฑ์โดยเฉลี่ย ตัวเลขจริงอาจคลาดเคลื่อนไปบ้าง
ตามความเหมาะสม)
เมื่อสามารถวางเป้าหมายของระบบได้แล้วก็เป็นเรื่องของการ
หาความรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบ เช่น ในระบบที่มีวิทยุ
ซีดี+ลำโพงหน้า+ลำโพงหลัง ก็ให้นำงบที่เหมาะสมมาหาร 2 ก่อน
ก็จะได้ส่วนของงบตัววิทยุซีดีอยู่ที่ประมาณ 10,000 บาท
ในส่วนของงบลำโพงนั้นให้เน้นงบที่เป็นลำโพงคู่หน้าประมาณ 3
ใน 4 (หรือคู่หน้า 7,500 บาท คู่หลัง 2,500 บาท) จากนั้นจึง
เลือกยี่ห้อหรือรุ่นของวิทยุซีดีที่มีค่าตัวอยู่ในงบดังกล่าวไว้ประมาณ
2-3 ยี่ห้อ/รุ่น เช่นกันกับยี่ห้อ/รุ่นของลำโพงคู่หน้า/คู่หลัง
เพื่อที่ว่าเวลาเข้าร้านติดตั้งแต่ละร้านที่มีสินค้าไม่เหมือนกันจะได้
เปรียบเทียบกันได้ และควรเผื่องบสำหรับค่างานติดตั้งไว้ประมาณ
10-20% ด้วย เพราะบางร้านอาจจำหน่ายสินค้าในแบบไม่รวมค่า
ติดตั้ง
ศักยภาพจริงของระบบเสียงรถยนต์ทุกระบบ/แบบมักเริ่มที่
อุปกรณ์ต้นเสียง เช่น วิทยุ, ซีดี, เทปดิจิตอล, วีซีดี ดังนั้นงบ
ประมาณเกินกว่าครึ่งหนึ่งในระบบพื้นฐานจึงมักเริ่มที่อุปกรณ์ต้น
เสียงหรือแหล่งต้นเสียง
หรืออีกนัยหนึ่งก็คือควรเลือกอุปกรณ์ประกอบในระบบที่ไม่ควร
แพงไปกว่าราคาของอุปกรณ์ต้นเสียง เช่น ใช้วิทยุซีดีในระดับ
~10,000 บาท ก็ไม่ควรซื้อลำโพงที่แพงกว่าราคานี้มาใช้ น่าจะไป
ได้ดีกับลำโพงในระดับ 7,000-8,000 บาทมากกว่า
อย่าลืมว่าเสียงทุกๆ เสียงที่ผ่านปรีแอมป์, ครอสโอเวอร์, อี-
ควอไลเซอร์ และเพาเวอร์แอมป์ไปจนถึงผ่านออกลำโพง จะมี
ต้นทางมาจากอุปกรณ์ต้นกำเนิดเสียงนี้ ดังนั้นถ้าต้นเสียงห่วยแล้ว
ละก็ อย่าได้หวังว่าจะเอาลำโพงแพงๆ คู่ละสี่ห้าหมื่นมาแก้ปัญหา
เพราะยิ่งแก้ก็ยิ่งบานปลาย
เป้าหมายระบบงบที่เป็นไปได้ (บาท) งบที่เหมาะสม (บาท)
วิทยุซีดี + ลำโพงหน้า + ลำโพงหลัง 10,000 - 30,000 20,000
วิทยุซีดี + แอมป์ 4 แชนแนล + ลำโพงหน้า + ลำโพงหลัง 20,000 - 50,000 40,000
วิทยุซีดี + แอมป์ 5 แชนแนล + ลำโพงหน้า + ลำโพงหลัง + ซับวูฟเฟอร์ 40,000 - 70,000 60,000
วิทยุซีดี + แอมป์ 5 แชนแนล + ลำโพงหน้า + ลำโพงหลัง + ซับวูฟเฟอร์ + การแก้ปัญหาอคูสติก 80,000 - 140,000 120,000
เลือกหาจากนิตยสารต่างๆ
• นิตยสารเกี่ยวกับเครื่องเสียงรถยนต์เป็นอีกแหล่งสินค้าสำหรับผู้ที่
กำลังเลือกหาสินค้าตัวใหม่ๆ อีกทั้งยังเป็นแหล่งข้อมูลที่ค่อนข้างทัน
สมัย มีภาพประกอบชัดเจน และบางครั้งยังมีคำแนะนำที่พอเป็น
ประโยชน์กับการเลือกซื้ออีกด้วย
เลือกซื้อจากร้านขายสินค้าลดราคา
• การเลือกซื้อสินค้าเครื่องเสียงรถยนต์จากร้านจำหน่ายสินค้าลด
ราคา มีข้อควรระวังเกี่ยวกับการรับประกัน และสินค้าที่ตกยุคสมัย
(ยกเว้นเป็นความต้องการจริงๆ ของผู้ซื้อ/ผู้ใช้) ไม่ควรเลือกซื้อสินค้า
ลดราคาพิเศษที่ไม่มีกล่องบรรจุ และไม่มีใบรับประกัน เพราะมีโอกาส
เป็นสินค้าย้อมแมวมากกว่าเป็นสินค้าลดราคาพิเศษ (แต่ถ้าเป็นสินค้า
มือสองที่บอกกันก่อนก็แล้วไป)
การเลือกซื้อเครื่องเสียงรถยนต์จากร้านขายสินค้าลดราคา ควรมี
ข้อมูลจำเพาะของอุปกรณ์ชิ้นนั้นๆ รวมถึงคู่มือไว้พิจารณาอย่าง
รอบคอบ เนื่องจากเป็นรูปแบบของการซื้อแบบไม่รับคืน ถ้าซื้อผิด
วัตถุประสงค์ก็ต้องทนใช้ไปจนกว่าจะพังไปข้างหนึ่ง
เลือกซื้อโดยการสั่งทางไปรษณีย์หรืออินเตอร์เนต
• อีกช่องทางหนึ่งของการเลือกซื้อเครื่องเสียงรถยนต์ใหม่ๆ คือ การ
สั่งซื้อทางไปรษณีย์ หรือทางอินเตอร์เนต เพียงแต่มันจะดูเป็นช่องทาง
ของนักเล่นเครื่องเสียงรถยนต์มืออาชีพเสียมากกว่า เนื่องจากต้องมี
ความรู้อย่างถ่องแท้เกี่ยวกับอุปกรณ์ชิ้นนั้นว่าจะใช้อย่างไร ใช้เพื่ออะไร
และต้องติดตั้งด้วยวิธีไหน เป็นช่องทางที่ถ้าหากไม่รู้อย่างลึกซึ้งแล้วไม่
ควรเสี่ยง
สินค้ามือสอง
• สินค้ามือสองนับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของหมวดสินค้าเทคโนโลยี
ทั้งเครื่องเสียงรถยนต์ คอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ เครื่องเล่นเกม เพราะ
สามารถเลือกใช้อุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูงๆ ได้ในราคาที่ย่อมเยา
กว่า แต่ก็ต้องเสี่ยงกับสินค้าที่ตกยุค ถ้าหากมีข้อมูลประกอบการเลือก
ซื้อไม่มากพอเพียง
แหล่งที่มาของอุปกรณ์ระบบเสียงรถยนต์มือสองนั้นหลากหลาย
ตั้งแต่ของเสียซ่อมเสร็จแล้วขาย เทิร์นเปลี่ยนของใหม่ ขโมยของในรถ
พ่อมาขาย ขโมยของชาวบ้านมาขาย ของหลุดจำนำ ขายเพื่อไปใช้หนี้
พนันบอล ของมือสองจากต่างประเทศ
การเลือกซื้ออุปกรณ์ระบบเสียงรถยนต์มือสองมักต้องมีความรู้
อย่างถ่องแท้ และต้องสามารถหาคู่มือใช้งานได้ด้วยจะดีมากๆ เพราะ
อุปกรณ์ระบบเสียงรถยนต์บางชิ้นถ้าไม่มีคู่มือก็ยากที่จะนำไปใช้ได้
อย่างสมบูรณ์แบบ
โดยทั่วไปอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับการเลือกซื้อหาเป็นมือสองนั้นก็
ขอแนะนำให้เป็นเพาเวอร์แอมป์ เพราะสามารถตรวจสอบการทำงาน
ได้อย่างสะดวก ซ่อมบำรุงได้ภายหลังเนื่องจากมีอุปกรณ์อะหลั่ยที่เป็น
ลิขสิทธิ์เฉพาะใช้งานกันน้อยในเพาเวอร์แอมป์
ถัดมาเป็นซับวูฟเฟอร์ เพราะสังเกตเห็นความเสียหายได้ง่าย เช่น
วอยซ์ขาด กรวยแตก สไปเดอร์ทรุด ขอบเน่า เหล่านี้สังเกตด้วยตาได้
แทบทั้งสิ้น
อุปกรณ์ที่ไม่ข้องแวะด้วยสำหรับการเลือกซื้อเป็นสินค้ามือสอง ก็
คือตัวเครื่องเล่นวิทยุซีดี หรือเทป และลำโพงกลาง-แหลม เพราะ
สังเกตเห็นได้ยาก คำนวณอายุการใช้งานได้ลำบาก และยังรวมไปถึง
ความไม่มั่นใจถึงการซ่อมบำรุงในอนาคตอีกด้วย ยิ่งตกรุ่นหลายๆ ปี
ยิ่งน่าเป็นห่วง แหล่งสินค้าที่พอหาซื้อสินค้ามือสองได้สะดวกก็ได้แก่
โฆษณาย่อยตามนิตยสาร
• เป็นกรอบโฆษณาขนาดช่อง 1x1 นิ้วตามหนังสือพิมพ์ หรือ
นิตยสารจำหน่ายสินค้ามือสอง มีลักษณะเป็นการติดต่อซื้อขาย
โดยตรงระหว่างผู้ซื้อ-ผู้ขาย ทำให้มีโอกาสถูกหลอกได้ง่ายถ้าไม่มี
ความรู้อย่างแท้จริง
ร้านขายเครื่องเสียงรถยนต์มือสอง
• ให้ความปลอดภัยและมีหลักประกันที่ดีพอประมาณ บางที่
สามารถพุดคุยปรึกษาได้ แต่ก็ต้องมีความรู้เฉพาะตัวประกอบไปด้วย
ตามร้านขายบางแห่งอาจมีการรับประกันสินค้ามือสองให้ด้วย รวมถึง
การรับซ่อมบำรุงในบางกรณี
โรงรับจำนำ
• อาจเป็นแหล่งที่มีสินค้าให้เลือกน้อย แต่ถ้าหาได้มักจะเป็นสินค้าที่
มีคุณภาพดีที่สุด เพราะเป็นของมือสองที่มีการสกรีนมาอย่างเข้มข้น
ไม่มีของขโมย ไม่มีของเสียหาย ที่สำคัญไม่มีมูลค่าทางการตลาดสูงนัก
มีโอกาสได้สินค้ายี่ห้อดังคุณภาพเยี่ยมในราคาถูกเหลือเชื่อ
ตลาดมืดหรือแผงแบกะดิน
• เป็นอีกแหล่งที่มีสินค้าเครื่องเสียงรถยนต์มือสองวางอย่างเกลื่อน
กลาด แต่มักเป็นสินค้าระดับล่างๆ บ้างก็เป็นของขโมย ตาดีได้ตาร้าย
เสีย เพราะผู้ขายบางครั้งก็แกล้งทำเป็นไม่รู้อะไรนัก ยิ่งถ้าเป็นผู้ซื้อ
ประเภทไม่รู้อะไรเลย ก็สนุกละครับท่านได้ของห่วยมาในราคาที่แพง
มหาศาล
สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นศึกษาระบบเสียงรถยนต์แล้ว ไม่ขอแนะนำให้
ข้องแวะกับอุปกรณ์ระบบเสียงรถยนต์มือสอง เพราะมีโอกาสพลาดได้ง่าย
ถ้าสนใจจริงคงต้องหาที่ปรึกษาไปด้วย การเลือกซื้อสินค้าใหม่หรือ
สินค้ามีการรับประกัน น่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า หากมี
ปัญหาก็ถามหาความรับผิดชอบได้โดยง่าย
ส่วนนักเล่นที่แก่พรรษารู้ลึกซึ้งถึงการแก้ปัญหาต่างๆ ได้เอง
เหมาะที่จะเป็นนักเล่นเครื่องเสียงรถยนต์มือสองมากกว่า
คุณค่าของอุปกรณ์ที่ควรต้องคำนึงถึง
• ในการเลือกซื้อหาอุปกรณ์ระบบเสียงรถยนต์ตามที่ท่านต้องการ
ลำดับแรกท่านต้องคำนึงถึงคุณค่าแห่งเสียงที่ต้องการก่อนจะคิดเรื่อง
คุณภาพเสียงของระบบ หรือความถูก/แพงของอุปกรณ์ รสนิยมในการ
ฟังเพลง และวัตถุประสงค์ของการมีระบบเสียงในรถยนต์ของผู้เป็น
เจ้าของระบบ
แต่ละคนมักมีความแตกต่างกันออกไป ที่เหมือนกันก็เห็นจะเป็นใน
เรื่องที่ไม่มีใครชอบฟังเสียงหนวกหู ไม่ว่าจะเป็นระบบเสียงหลักหมื่น
หรือหลักแสน
ในบทสรุปก็คือ ทุกคนชอบเสียงที่ไพเราะ ไม่ว่าจะจ่ายเงินค่าระบบ
ไปมากน้อยเพียงใด บางท่านอาจไม่ประสงค์ที่จะเน้นการฟังระบบ
เสียงที่เพียบพร้อมไปด้วยรายละเอียดระยิบระยับ ในขณะที่บางท่านก็
ต้องการระบบเสียงที่มีประสิทธิภาพดังกล่าวอย่างยิ่งยวด
ถ้าจะกล่าวถึงกันตรงๆแล้ว ความถูกหรือแพงของระบบเสียง
รถยนต์มักมีความสัมพันธ์กับเรื่องของรายละเอียดเสียงโดยตรง ผิดกับ
ความไพเราะที่สามารถเกิดขึ้นได้กับระบบเสียงในหลักไม่กี่หมื่นบาท
โดยความจริงแล้วระบบเสียงรถยนต์นั้นเราจะฟังกันอย่างเหมาะ
สมในระดับความดังแถวๆ 80-110 เดซิเบล เป็นความเหมาะสมด้วย
กฏจราจร และการรักษาเสถียรภาพการทำงานของหูมนุษย์
การทำความดังของระบบเสียงที่มากกว่านี้ มักเป็นเรื่องของการ
แข่งขัน และการอวดศักดาเสียมากกว่า กำลังขับรวมๆ ของทั้งระบบที่
500 วัตต์ ก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของคำว่าไพเราะได้แล้ว
เอาเป็นว่ากิเลสทางระดับความดังเสียงไม่ใช่สาระหลักของความ
ไพเราะก็แล้วกัน แต่กลับเป็นเรื่องของการละลายทรัพย์ มากไปกว่านั้น
อาจหมายถึงตัวเลขความดังที่ขึ้นตรงกับสตางค์ที่ต้องจ่ายออกไป
สิ่งที่น่าแปลกมากๆ ก็คือ เจ้าของระบบที่มีกำลังขับน้อยๆ มัก
ชอบฟังดังๆ แบบหูแตก ตรงกันข้ามกับเจ้าของระบบที่มีกำลังขับ
หลายร้อยวัตต์กลับชอบฟังรายละเอียดและฟังไม่ดังเกิน 110 dBA
เรื่องนี้มีที่มาครับ
คุณค่าของอุปกรณ์ที่ต้องคำนึง
1. ต้นทางของเสียง นั่นคือการเลือกอุปกรณ์แหล่งต้นเสียง ที่มี
คุณภาพของการให้เสียงที่ดีที่สุด และสนองตอบการใช้งานที่ราบรื่น
เช่น มีภาครับ FM ภายในเครื่องที่ให้คุณภาพของเสียงได้ดีกว่า AM
หรือคลื่นสั้นต่างๆ หรือมีภาคเล่นซีดีที่ให้คุณภาพเสียงได้ดีกว่าเทป
คาสเส็ตต์ และใช้งานได้อย่างสะดวกเมื่อเทียบกับ MD (Mini Disc)
ที่เสียงดีแต่หาแผ่นเล่นได้ยาก ต้องบันทึกเอาเองจากแหล่งเสียง
คุณภาพดีๆ อีกที
2. กำลังทางเสียง เป็นการเลือกใช้การขยายความดังเสียง เพื่อให้
เพียงพอต่อการแจกแจงรายละเอียดเสียง
ในระบบพื้นฐาน 4 ลำโพงนั้น กำลังขับเริ่มต้นที่ 25 วัตต์ต่อ 1
ชุดลำโพง ก็พอเพียงสำหรับการฟัง แต่หากต้องการความไพเราะด้วยก็
ต้องเริ่มต้นกันที่ 50 วัตต์ต่อ 1 ชุดลำโพง (4 ลำโพงก็เท่ากับ 200
วัตต์)
หากต้องการความหนักแน่นของเสียงด้วยก็ต้องเพิ่มอีก 300 วัตต์
เพื่อขับชุดเสียงความถี่ต่ำ (ซับวูฟเฟอร์) ความเหมาะสมเหล่านี้ผู้ซื้อ
ควรเป็นผู้กำหนด
3. ความสามารถในการปรับเสียง เป็นความสามารถควรมีอยู่ใน
ระบบเสียงรถยนต์ทุกระบบ ด้วยความแตกต่างกันของลักษณะห้อง-
โดยสารของรถแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อที่ไม่เหมือนกัน ระบบที่มีความ
สามารถในการปรับเสียงได้มากกว่าก็สามารถสร้างสภาพเสียงที่
ไพเราะชวนฟังได้สูงกว่าตามไปด้วย
4. ระบบป้องกันการโจรกรรม อาจเป็นความสามารถที่หลายๆ
ท่านมองข้าม แต่กลับเป็นคุณค่าที่น่าพิจารณามากที่สุด โดยเฉพาะใน
ส่วนของอุปกรณ์แหล่งต้นเสียงที่ติดตั้งไว้บริเวณแผงหน้าปัดรถ
ปัจจุบันระบบถอดแผงหน้ากากออกถือเป็นระบบที่มาตรฐาน และ
มีคุณค่าในการป้องกันการโจรกรรมได้สมบูรณ์แบบที่สุด (ถ้าใช้งานมัน
อย่างจริงจัง)
การเลือกใช้อุปกรณ์ต่างๆตามวัตถุประสงค์
• หนึ่งในการเลือกใช้อุปกรณ์ระบบเสียงรถยนต์ ก็คือการเลือกใช้
ตามวัตถุประสงค์ของการฟัง อันได้แก่
อุปกรณ์แหล่งต้นเสียง (FrontEnd)
• ภาคเล่นเทปคาสเส็ตต์ (Tape Cassette)
• ข้อดี
- การเล่นเทปแบบกลับด้านเองต่อเนื่องราคาย่อมเยาที่สุด
(Auto Reverse)
- เทปคาสเส็ตต์ เป็นสื่อบันทึกเสียงราคาถูก
- เลือกบันทึกได้เองตามความถนัด ด้วยการทำงานที่ไม่ซับซ้อน
- มีสื่อบันทึกสำเร็จให้เลือกฟังมากที่สุดในท้องตลาด
• ข้อด้อย
- กลไกการเล่นเทปมีส่วนเคลื่อนไหวมากที่สุด จึงมีปัญหาเมื่อ
ใช้งานระยะยาว
- คุณภาพของเสียงจากสื่อบันทึกนับว่าแย่ที่สุด
- เกิดข้อบกพร่องของสื่อบันทึกได้ง่ายสุด เช่น เทปยืด บวมพอง
เมื่อโดนความร้อน แตกหักเสียหายเมื่อโดนกดทับ
• ภาคเล่นแผ่นซีดี (CD: Compact Disc)
• ข้อดี
- ให้คุณภาพของเสียงจากสื่อบันทึกได้ดีมาก
- มีแผ่นซีดีมือสองให้เลือกซื้อได้ตามท้องตลาด
- ไม่มีการเสื่อมถอยของคุณภาพเสียงไม่ว่าจะใช้งานกี่ครั้งก็ตาม
- ไม่มีส่วนของกลไกแตะสัมผัสแผ่น อายุการใช้งานจึงยาวนานกว่า
- ราคาย่อมเยา เมื่อเทียบกับคุณภาพเสียงจากสื่ออื่นๆ
และมีความหลากหลายเท่าๆ กับเทปคาสเส็ตต์
• ข้อด้อย
- อาจมีการกระตุกบ้างในบางครั้งขณะรถเคลื่อนที่บนทางขรุขระ
หรือทางวิบากมากๆ
- ราคาของสื่อบันทึกแพงกว่าเทปอยู่เล็กน้อย
- เลือกบันทึกสื่อได้เอง แต่มีการทำงานที่ซับซ้อนกว่า
- ต้องระมัดระวังในการเก็บรักษาแผ่น เพราะอาจเกิดรอยขีดข่วน
หรือแตกหักเสียหาย
- ไม่สามารถเชื่อมโยงอุปกรณ์เสียงจากภายนอกผ่านทางภาคเล่นซีดี
• ภาคเล่นมินิดิสก์ (MD:Mini Disc)
• ข้อดี
- ขนาดของมินิดิสก์เล็กกว่าสื่ออื่นๆ พกพาง่าย
- มีระบบป้องกัน จึงมีเสถียรภาพในการใช้งานดีกว่าแผ่นซีดี
- ไม่มีส่วนกลไกแตะสัมผัสกับแผ่น อายุการใช้งานจึงยาวนานกว่า
- เลือกบันทึกสื่อได้เองจากเครื่องเล่นภายในบ้าน
- คุณภาพเสียงดีกว่าเทปคาสเส็ทมาก
- ง่ายต่อการบันทึกซ้ำได้เหมือนๆกับเทปคาสเส็ท
• ข้อด้อย
- เป็นของใหม่ และไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าที่ควรในท้องตลาด
โดยเฉพาะในเมืองไทย
- การบันทึกสื่อใช้เอง จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เฉพาะที่มีราคาแพง
- ไม่ค่อยมีสื่อบันทึกสำเร็จจำหน่ายในท้องตลาด
- คุณภาพเสียงไม่ดีกว่า และไม่ด้อยกว่าแผ่นซีดี
- ราคาสื่อบันทึกค่อนข้างสูงมาก
ลำโพง (Speaker)
• ลำโพงแบบรวมชิ้น
• ข้อดี
- ราคาย่อมเยา เพราะรวมขับเสียงทุ้มและเสียงแหลมไว้ในโครง
เดียวกัน
- สามารถติดตั้งในพื้นที่ที่เดียวกัน
• ข้อด้อย
- ไม่สามารถจัดตำแหน่งเสียงภายในรถให้สมบูรณ์ได้
- ไม่สามารถแยกใช้ข้อเด่นของตัวขับเสียงแต่ละแบบ เพราะต้องซื้อ
รวมกัน
- เพราะตัวขับเสียงแหลม (กลาง) ติดตั้งอยู่แกนกลางของเสียงทุ้ม
คุณภาพเสียงที่ได้จึงมักคลุมเคลือ
• ลำโพงแบบแยกชิ้น
• ข้อดี
- สามารถแยกติดตั้งตัวขับเสียงแหลม และเสียงทุ้มคนละตำแหน่ง
จึงให้สภาพเสียงภายในรถที่สมบูรณ์แบบ
- สามารถเลือกใช้ข้อเด่นของตัวขับเสียงทุ้ม ตัวขับเสียงแหลมอิสระ
คือใช้เสียงทุ้มและเสียงแหลมคนละยี่ห้อ ตามรสนิยมการฟัง
- คุณภาพเสียงสะอาดชัดเจนกว่า
• ข้อด้อย
- ราคาสูงกว่า เพราะต้องแยกผลิตคนละส่วน
• วูฟเฟอร์และซับวูฟเฟอร์แบบแขวนลอย
• ข้อดี
- สามารถติดตั้งได้บนแผงหลัง หรือตำแหน่งอื่นโดยไม่ต้องทำตู้ โดย
ปกติต้นทุนผลิตวูฟเฟอร์และซับวูฟเฟอร์แบบแขวนลอย แตกต่างจาก
ซับวูฟเฟอร์แบบมีตู้เพียงเล็กน้อย
- ต้องการพื้นที่ในการติดตั้งน้อย
• ข้อด้อย
- ถ้าต้องการประสิทธิภาพสุงสุดก็ต้องทำตู้บรรจุอยู่ดี
- ในรถยนต์บางรุ่นที่โครงสร้างไม่แข็งแรงพอ อาจทำให้มีเสียง
กระพือเมื่อเปิดเบสแรงๆ
• วูฟเฟอร์และซับวูฟเฟอร์แบบทำตู้
• ข้อดี
- สามารถออกแบบตู้ให้มีความเหมาะสมทางวิศวกรรมได้อย่าง
สมบูรณ์ วูฟเฟอร์ และซับวูฟเฟอร์แบบตู้จะมีราคาสูงกว่า
- มีข้อมูลทางเทคนิคสำหรับการใช้งานแบบมืออาชีพ
- สะดวกในการสับเปลี่ยนจากรถคันหนึ่งไปติดตั้งในรถคันอื่นๆ
• ข้อด้อย
- ต้องการพื้นที่ที่สมบูรณ์ในการติดตั้ง มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับชนิด
ของตู้
- อาจถูกขโมย หรือหยิบฉวยได้ง่าย ถ้าติดตั้งไม่สมบูรณ์
การขยายกำลังเสียง (Power Amplifier)
• เพาเวอร์แอมป์ แบบติดตั้งใช้งานภายนอก
• ข้อดี
- สามารถสร้างระดับความดังตามความต้องการของผู้ใช้
ให้พลังต่อเนื่องได้มากกว่า
- สามารถจ่ายพลังเสียงตามความต้องการของตัวขับเสียง
ประสิทธิภาพสูงต่างๆ
- มักมีครอสโอเวอร์ประสิทธิภาพสูงติดตั้งไว้ภายในตัวเครื่อง
• ข้อด้อย
- มักมีราคาสูง บางทีอาจมีราคาสูงกว่าอุปกรณ์แหล่งต้นเสียง
- ต้องการพลังไฟมากกว่าปกติ บางครั้งต้องทำการปรับปรุงระบบ
ไฟของรถเพิ่มเติม
ภาคขยายกำลัง แบบติดตั้งอยู่ภายในอุปกรณ์
แหล่งต้นเสียง (Hi-Power)
• ข้อดี
- ไม่ต้องเสียพื้นที่ติดตั้งเพิ่มเติม
- ใช้เวลาติดตั้งน้อยกว่า
• ข้อด้อย
- ให้กำลังขับต่อเนื่องจริงๆ ไม่มากเกินกว่า 25 วัตต์ต่อแชนแนล
- ถ้าภาคขยายเสียหาย ต้องถอดเพื่อซ่อมบำรุงทั้งตัวเครื่อง
ต้องไม่ลืมว่าระบบเสียงรถยนต์จะมีความสมบูรณ์นั้น จะต้องเกิด
จากการวางแผนอย่างละเอียดรอบคอบ ควรตรวจสอบข้อมูล
สอบถามรายละเอียดในทุกด้าน จนได้บทสรุปที่ถูกต้องของระบบใน
ความคิด
อย่าติดตั้งระบบเสียงด้วยเหตุแห่งความเกรงใจ หรือกลัวเสียหน้า
หรือเพราะกลัวโดนดูถูกจากเพื่อนๆ
การเลือกวิทยุซีดีรถยนต์
• การเลือกใช้วิทยุซีดีติดรถยนต์ในปัจจุบัน ดูจะเป็นเรื่องปกติวิสัย
กันไปแล้ว ด้วยยุคสมัยปัจจุบันที่เทปคาสเส็ทดูจะเป็นสื่อที่มีความ
ถดถอยในแง่คุณภาพเสียง
ในขณะที่สื่อซีดี (ดิจิตอล) ที่มีขนาดแผ่นมาตรฐาน 5-1/4 นิ้ว มี
พัฒนาการทางด้านคุณภาพเสียงอย่างมาก และแตกกิ่งก้านสาขา
เป็นการบีบอัดเสียงเพลง ที่แผ่นเพียงแผ่นเดียวสามารถบรรจุเพลงได้
นานเป็น 10 ชั่วโมง
ประกอบกับเครื่องคอมพิวเตอร์ตามบ้านเรือนทั่วไป สามารถทำ
การบันทึก/ลบทิ้งแผ่นซีดีได้เอง การทำสื่อบันเทิงเพื่อนำมาใช้กับวิทยุ/
ซีดีรถยนต์จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหรือยุ่งยากอย่างที่คิด
ปัจจุบันในส่วนของเฮดยูนิทหรือฟร้อนท์เอ็นด์เราจึงมักนิยามกันถึง
วิทยุ/ซีดีกันเป็นส่วนใหญ่
เลือกให้เหมาะกับการใช้งาน
• ก่อนอื่นก็ต้องทราบถึงขนาดช่องวิทยุซีดีที่อยู่บนแผงหน้าปัดรถที่
จะใช้ติดตั้ง โดยมาตรฐานทั่วไปจะเป็น DIN Size (ความกว้าง
ประมาณ 7 นิ้ว และสูงประมาณ 2 นิ้ว) และในรถบางรุ่นอาจมีช่อง
ติดตั้งให้ในขนาด 2DIN Size (ความกว้างประมาณ 7 นิ้ว และสูง
ประมาณ 4 นิ้ว)
โดยข้อแนะนำปัจจุบันนั้นแม้ว่าจะช่องที่มีจะเป็น 2DIN แต่การ
เลือกใช้งานจริงควรเป็นขนาด 1DIN เพื่อจะได้มีช่องเหลือไว้สำหรับ
การติดตั้งระบบคาร์เธียเตอร์ได้ในอนาคต หรืออุปกรณ์เสริมอื่นที่มี
ขนาด 1DIN เช่นกันได้ในอนาคต
แต่ถ้าหากไม่คิดจะขยับขยายอื่นใดจริงๆ ในตลาดปัจจุบันมีวิทยุ/ซี
ดีในขนาด 2DIN ให้เลือกใช้ โดยอาจมีการติดตั้งชุดเล่นเทปคลาสเส็ท
มาให้ด้วยหรือเป็นมินิดิสก์
เมื่อได้ขนาดของตัววิทยุซีดีที่เหมาะสมแล้ว ก็ต้องมาดูในเรื่อง
ประโยชน์ใช้สอยที่ต้องการ โดยวิทยุซีดีปัจจุบันจะมีประโยชน์ใช้งานพื้น
ฐานที่เป็นภาครับวิทยุ FM/AM และภาคเล่นแผ่นซีดีเพลง
มาตรฐาน(CD)
มีรุ่นที่มากประโยชน์ใช้งาน ที่บรรจุภาคการเล่นแผ่น CD-R,
CD-RW, MP3, WMA, VCD ไปจนถึง DVD ซึ่งใช้ช่องบรรจุสื่อ
ขนาด 5-1/4 นิ้วเหมือนกัน และมีสนนราคาที่แตกต่างกันไปตาม
ประโยชน์ใช้งาน จึงต้องเลือกให้เหมาะสมเพราะการจ่ายเงินครั้งเดียว
แล้วใช้งานได้ถึงอนาคตอาจคุ้มค่ากว่าการจ่ายเพิ่มที่ละส่วนในภายหลัง
เลือกให้ได้คุณภาพเสียงที่ดี
• การเลือกใช้วิทยุซีดีรถยนต์ในเบื้องต้น จะคำนึงถึงคุณภาพเสียงที่
จะได้เป็นประเด็นหลัก และประโยชน์ใช้สอยเป็นประเด็นรอง โดยมี
เกณฑ์ในการเลือกเพื่อผลทางคุณภาพเสียงดังต่อไปนี้
ข้อมูลตัวเลขที่ดี ข้อมูลจำเพาะของภาคเล่นซีดีที่ดีจะมีผลทำให้
ได้คุณภาพเสียงที่ดี เช่น ตัวเลขของอัตราส่วนเสียงต่อการรบกวนที่มา
กกว่า (S/N >100 เดซิเบล) ก็จะให้เสียงที่สะอาดชัด และการตอบ
สนองความถี่ที่มีขอบเขตกว้างมาก(20 เฮิร์ตซ์-20,000 เฮิร์ตซ์ +/-
<1 เดซิเบล) ก็จะให้เสียงที่เปี่ยมล้นไปด้วยรายละเอียดชิ้นดนตรี ซึ่ง
ข้อมูลเหล่านี้จะมีความสำคัญอย่างยิ่งกับการเข้าระบบร่วมกับเพา
เวอร์แอมป์ ในแบบไบแอมป์หรือไตรแอมป์
กำลังวัตต์ไฮเพาเวอร์ ที่แม้จะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ปัจจุบัน
เครื่องเล่นวิทยุซีดีรถยนต์ส่วนใหญ่ มักติดตั้งภาคขยายไฮเพาเวอร์ 4
แชนแนลมาให้ภายใน
เมื่อจะต้องตัดสินใจเลือกใช้เราก็มักจะมองลึกไปถึงกำลังวัตต์ใน
หน่วย RMS ที่เป็นข้อมูลที่บอกถึงประสิทธิภาพที่แท้จริง ไฮเพาเวอร์
ในปัจจุบันที่บอกกำลังวัตต์ 50 วัตต์ x 4 นั้นอาจมีกำลังวัตต์ RMS
แค่เพียง 22 วัตต์ x 4 ซึ่งสามารถดูได้ในคู่มือประจำเครื่อง สำหรับ
ท่านที่ต้องการคุณภาพเสียงที่สะอาดชัดและเปี่ยมพลัง ก็สามารถเพิ่ม
ระบบเพาเวอร์แอมป์ทั้งไบแอมป์หรือไตรแอมป์เพื่อคุณภาพเสียงตามที่
ต้องการ
ความไวในการรับคลื่น AM/FM ภาครับวิทยุในวิทยุซีดีที่จำหน่าย
อยู่ตามท้องตลาด มักมีคุณสมบัติในการรับคลื่นที่ดีกว่าวิทยุติดแถมมา
กับรถ
ยกเว้นในกรณีของวิทยุซีดีรุ่นถูกสุด ที่อาจไม่แตกต่างในด้านนี้มาก
นัก ซึ่งเราสามารถตรวจสอบค่าความไวในการรับคลื่นได้ในคู่มือประจำ
เครื่อง โดยตัวเลขที่น้อยที่สุดถือว่ามีความสามารถในการรับได้ดีที่สุด
การกำหนดรูปแบบน้ำเสียง เครื่องเล่นวิทยุซีดีทั่วไปมักมีภาค
ของการปรับปรุงเสียง น้อยที่สุดอาจเป็นแค่ปุ่มปรับเสียงทุ้ม/เสียง
แหลม แต่ในวิทยุซีดีที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า มักมีภาคของการ
ปรับปรุงเสียงที่ใช้งานได้หลากหลายกว่า ซึ่งมีผลโดยตรงกับคุณภาพ
เสียงที่จะได้ในอนาคต
การเพิ่มเสียงเฉพาะส่วน เพื่อเติมเต็มเนื้อเสียงในขณะฟังเพลงเบาๆ (loudness)
การเพิ่มเฉพาะเสียงเบส หรือขยายเนื้อเสียงเบสเพื่อให้ย่านเสียงเบสลึกที่สมบูรณ์ขึ้น
การกำหนดวิธีชดเชยเสียงเพื่อฟัง
แนวเพลงแต่ละแบบ โดยเลือกได้เองตาม
ความเหมาะสม (preset EQ)
การปรับชดเชยเสียงแบบเต็มรูปแบบ
ที่ปรับละเอียดได้จากภาคอีควอไลเซอร์ขนาด
13 ย่านความถี่
การประมวลผลเสียงแบบดิจิตอล
เพื่อปรับปรุงเสียงตามสภาพแวดล้อมของ
ห้องโดยสารรถแต่ละแบบ (DSP)
คุณสมบัติการป้องกันขโมย
• เป็นความช่วยเหลือบางอย่างจากผู้ผลิต
วิทยุซีดีปัจจุบัน ที่ได้ออกแบบระบบป้องกัน
ขโมยเพื่อติดตั้งมากับตัวเครื่อง ซึ่งเลือกใช้ให้
เหมาะกับวิถีชีวิตส่วนตัวได้
แบบถอด ถอดแผงหน้าปัดเครื่องออก
จากตัวเครื่อง เมื่อไม่ได้ใช้งานหรือไม่ได้อยู่
ในรถ
สัญญาณจากเครื่องเล่น VCD/DVD แบบพกพา
หรือเครื่องเล่นวีดีโอเทป
สัญญาณจากเครื่องรับสัญญาณโทรทัศน์
ในการเลือกใช้วิทยุซีดีรถยนต์ เรามักดูถึง
การวางแผนเพื่อใช้งานจริงในอนาคต การบิด
เบือนความต้องการที่แท้จริงในการใช้งาน
โดยหวังแค่เรื่องของตัวเครื่องที่ราคาถูกๆ
อาจเกิดผลร้ายในอนาคตเมื่อเพิ่มเติม
ระบบตามที่ต้องการใช้งานจริงๆ เพราะจะ
เกิดค่าใช้จ่ายที่คาดไม่ถึงอย่างมากมาย
เช่น ถ้าต้องการเล่นระบบไปจนถึงไตร
แอมป์แต่มีงบประมาณในขั้นต้นอยู่จำกัด การ
เลือกใช้วิทยุซีดีที่มีครอสโอเวอร์ในตัวและ
สามารถต่อสัญญาณขาออกได้ครบตามระบบ
ไตรแอมป์เลยจะดีกว่า
แม้ว่าในการใช้งานขั้นต้นจะเป็นเพียงไฮ
เพาเวอร์หรือวัตต์ในตัววิทยุก่อนก็ตาม เพียง
แ ต่ใ น อ น า ค ต ถ้า มีก า ร เ พิ่ม ร ะ บ บ เ พ า
เวอร์แอมป์/ชุดลำโพงก็ไม่ต้องวิ่งหาซื้อครอส
โอเวอร์ให้งบบานปลาย
แบบพลิก หรือปรับเปลี่ยนหน้าปัดให้กลายเป็นแผ่นสีดำเรียบ
กลบเกลื่อนสายตาขณะไม่ได้ใช้งาน
แบบใช้สมาร์ทการ์ด ที่ต้องบรรจุเข้าไปในตัวเครื่องหากต้องการ
ใช้งาน
แบบตั้งรหัส ตั้งรหัสในการเปิดใช้งานตัวเครื่อง
แบบมีระบบกันขโมยเต็มรูปแบบ เมื่อโดนถอดหรือเคลื่อนย้าย
จะมีไซเรนแจ้งเตือน
ชุดต่อสัญญาณออก (pre-out)
• ถ้าหากมีการแยกชุดอย่างเหมาะสม เช่น ถ้ามีชุดไฮ/ชุดมิด/ชุดโลว์
ก็สามารถนำไปจัดระบบเป็นไตรแอมป์ได้ทันที
หรือถ้ามีชุดไฮหน้า-หลัง/ชุดโลว์ ก็สามารถนำไปจัดระบบเป็น
แซทเทิลไลท์ไบแอมป์ได้ หรือถ้ามีชุดไฮ/ชุดโลว์ นำไปจัดระบบได้ใน
แบบไบแอมป์
ส่วนในกรณีที่มีชุดต่อสัญญาณออกแค่ชุดเดียว จะต้องซื้อเพิ่ม
ครอสโอเวอร์ภายนอกหากต้องการจัดระบบเพาเวอร์แอมป์ในภายหลัง
เลือกให้ได้ความบันเทิงตามต้องการ
• นอกจากเลือกตามการใช้งานและคุณภาพเสียงแล้ว ในบางกรณี
ของการเลือกใช้มักมุ่งประเด็นไปที่ความบันเทิงตามที่ต้องการ
หากต้องการเล่นทั้งวิทยุ/เทป/ซีดี แต่มีช่องบรรจุแค่ขนาด 1DIN
อาจเลือกใช้เครื่องเล่นวิทยุเทปพร้อมตู้ซีดีเชนเจอร์เพื่อใช้งานได้ตาม
ประสงค์
ถ้าต้องการเล่นเพลงได้ยาวนานแต่ไม่ต้องการระบบที่พะรุงพะรัง
ก็อาจเลือกใช้วิทยุซีดีที่เล่นแผ่น MP3 หรือ WMA ได้
ถ้าต้องการได้คุณภาพเสียงที่ดีจากแผ่นซีดีเพลงและต้องการใช้
ระบบภาพในรถยนต์ ก็อาจเลือกใช้เครื่องเล่นวิทยุซีดีคุณภาพสูงๆที่
สามารถพ่วงกับตู้วีซีดี/ดีวีดีเชนเจอร์ได้
โดยทั่วไปการเลือกใช้ในแบบรวมทั้งหมดในครั้งเดียว จะประหยัด
กว่าการเลือกเพิ่มที่ละส่วนได้มากกว่า 50%
สิ่งสำคัญสำหรับการเลือกใช้วิทยุซีดีที่ไม่ควรมองข้าม ก็คือความ
สามารถในการรับสัญญาณเสียงอื่นๆ จากภายนอกเครื่อง (Aux
Input) ทั้งแบบมีให้เลยหรือซื้อติดตั้งเพิ่มได้ภายหลัง
เพราะเมื่อมีการเพิ่มอุปกรณ์อื่นในอนาคตก็ยังสามารถใช้งานวิทยุซี
ดีเครื่องเดิมได้ต่อไปไม่ต้องเปลี่ยนใหม่ สัญญาณที่จะนำมาใช้ก็ได้แก่
สัญญาณจากเครื่องเล่นแบบพกพา ที่สามารถเล่น MP3,Minidisc หรือเทปคลาสเส็ทท์
สัญญาณจากเครื่องรับสัญญาณจากระบบดาวเทียม ที่อาจมีการนำมาใช้ในอนาคต
สัญญาณจากเครื่องเล่น VCD/DVD แบบพกพา หรือเครื่องเล่นวีดีโอเทป
สัญญาณจากเครื่องรับสัญญาณโทรทัศน์
ในการเลือกใช้วิทยุซีดีรถยนต์ เรามักดูถึงการวางแผนเพื่อใช้งานจริงในอนาคต การบิด
เบือนความต้องการที่แท้จริงในการใช้งาน โดยหวังแค่เรื่องของตัวเครื่องที่ราคาถูกๆ
อาจเกิดผลร้ายในอนาคตเมื่อเพิ่มเติมระบบตามที่ต้องการใช้งานจริงๆ เพราะจะ
เกิดค่าใช้จ่ายที่คาดไม่ถึงอย่างมากมาย เช่น ถ้าต้องการเล่นระบบไปจนถึงไตร
แอมป์แต่มีงบประมาณในขั้นต้นอยู่จำกัด การเลือกใช้วิทยุซีดีที่มีครอสโอเวอร์ในตัวและ
สามารถต่อสัญญาณขาออกได้ครบตามระบบไตรแอมป์เลยจะดีกว่า
แม้ว่าในการใช้งานขั้นต้นจะเป็นเพียงไฮเพาเวอร์หรือวัตต์ในตัววิทยุก่อนก็ตาม เพียง
แต่ใ นอนาคต ถ้ามีการเพิ่มระบบเพาเวอร์แอมป์/ชุดลำโพงก็ไม่ต้องวิ่งหาซื้อครอส
โอเวอร์ให้งบบานปลาย
การเลือกซื้อซีดีเชนเจอร์รถยนต์
• ผู้คนมากมายที่ให้ความสนใจกับการเลือกติดตั้งซีดีเชนเจอร์ใน
ระบบเสียงรถยนต์ นั่นอาจหมายรวมถึงตัวคุณด้วยที่คิดถึงการใช้งาน
ทั้งในส่วนของเทปคาสเส็ทและซีดีเพลงในรถ
บางทีอาจต้องการรื่นรมณ์กับแผ่นซีดีเพลงผ่านทางคลื่นในภาครับ
วิทยุที่มีมากับรถ รวมไปถึงเรื่องของการเล่นแผ่นเพลงมินิดิสก์ แต่ยัง
ไม่พร้อมที่จะเลือกวิทยุซีดีหรือวิทยุเทป
แนวความคิดเหล่านี้สนองตอบได้ด้วยเครื่องเล่นเชนเจอร์ที่เล่นได้
กับแผ่น CD-R หรือ CD-RW ที่สามารถบันทึกเพลงโปรดได้เอง
ปัจจุบันสามารถบันทึกไพล์เพลง MP3 เอาไว้ในแผ่น CD-R/
CD-RW เพียงแผ่นเดียวได้นานถึง 10 ชั่วโมง ถ้าเครื่องเล่นเชนเจอร์
นั้นใส่แผ่น MP3 ได้ คุณจะสามารถฟังเพลงได้โดยไม่ซ้ำกันตลอดเวลา
ที่เดินทาง
ถ้าได้ติดตั้งระบบภาพในรถยนต์ด้วยแล้ว คุณค่าที่ปรากฏจะมาก
ที่สุดกับเครื่องเล่น DVD/CD เชนเจอร์ ที่ใช้เพียงปลายนิ้วในการเลือก
ชมภาพยนตร์โปรดปรานและเพลงที่ชื่นชอบในการเดินทางด้วยรถยนต์
คราวหน้า ไม่ว่าจะเหตุผลใดก็ตามแต่ เครื่องเล่นซีดีเชนเจอร์ในรถยนต์
จะช่วยเสริมส่งคุณภาพของการเดินทางทุกครั้งที่ขับรถ
ปลอดภัยและสะดวกสบาย
• หมายถึงการไม่ต้องควานหาแผ่นซีดีที่ต้องการในระหว่างที่มือจับ
พวงมาลัย เครื่องเล่นเชนเจอร์จะไม่จำเป็นต้องทำการเปลี่ยนแผ่นด้วย
ตัวเองในขณะที่ใช้ความเร็วสูงๆ จึงปราศจากความพะวงในการขับรถ
ขณะที่ต้องการเพลิดเพลินใจกับเสียงเพลงอย่างต่อเนื่อง
รีโมทคอนโทรลจะเป็นตัวสั่งการควบคุมโดยที่คุณไม่ต้องละสายตาจาก
ท้องถนน
เครื่องเล่นเชนเจอร์ยังหมายถึงความสะดวกสบาย เพราะแผ่นซีดี
เพลงต่างๆได้ถูกจัดเรียบลำดับเอาไว้แล้วในเชนเจอร์ ดังนั้นจึงไม่มี
ความเสียหายหรือตกหล่นอยู่เต็มพื้นรถ
ด้วยความที่มันจะถูกติดตั้งเอาไว้ในห้องสัมภาระท้ายรถหรือใต้
เบาะที่นั่ง เครื่องเล่นเชนเจอร์ก็ยังมีความปลอดภัยจากสายตาของนัก
โจรกรรมหรือขโมยได้ดีอีกด้วย
ถ้าเลือกเครื่องเล่นเชนเจอร์ที่อ่านข้อมูลแผ่นได้หรือความ
สามารถแสดงผลแบบ ID-3 ก็สามารถเลือกฟังเพลงตามชื่อของ
ศิลปิน, ตามชื่อแผ่น และตามชื่อเพลงที่บอกข้อมูลเอาไว้บนแผง
แสดงผล
http://www.facebook.com/art789
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น